การปฏิวัติระบบดิจิทัลกำลังเปลี่ยนแปลงการขนส่ง

โลกกำลังเปลี่ยนไปต่อหน้าต่อตาเรา ไม่ว่าเราจะมองไปทางไหนเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต การทำธุรกิจ การมีปฏิสัมพันธ์ของเรา  และการขนส่งก็ไม่มีข้อยกเว้น จากคลังสินค้าที่เชื่อมต่อไปยังบริการจัดส่งไมล์สุดท้ายแบบอัตโนมัติ การเปลี่ยนรูปแบบดิจิทัลเป็นการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมของเราและทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งทำให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางได้มากกว่าที่เคยเป็นมา แต่อะไรคือความหมายที่แท้จริงสำหรับอนาคตอันใกล้นี้ และด้วยตัวเลือกที่มีอยู่อย่างมากมาย แล้วเราจะมีการวางแผนและเตรียมความพร้อมกันอย่างไร

นี่คือสิ่งที่ทาง Logistics Trend Radar  เข้ามาหาคำตอบโดยอิงกับข้อมูลจากมืออาชีพด้านการขนส่งและผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีกว่า 10,000 คน เครื่องมือที่ได้รับการยกย่องในอุตสาหกรรมนี้จะช่วยชี้แนะกลยุทธ์และนวัตกรรมโดยพิจารณาจาก 28 แนวโน้มสำคัญที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการขนส่งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

วิวัฒนาการของโลจิสติก: อุตสาหกรรมท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง

ในการทำวิจัยของ Logistics Trend Radar ได้พูดคุยกับผู้คนจำนวนมากและทบทวนเนื้อหามากมาย เรามองไปที่แนวโน้มขนาดใหญ่ทั่วโลก เช่น การทำเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัล ความเป็นเมือง ประชากรสูงอายุ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน  แนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมทั้งหมด นอกจากนี้ยังได้พูดคุยกับผู้เริ่มธุรกิจและพันธมิตรในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับรูปแบบธุรกิจใหม่และโซลูชั่นดิจิทัล รวมถึงความต้องการและความคาดหวังในอนาคต

ระบบดิจิทัลจะยังคงผลักดันการเปลี่ยนแปลงทั่วทั้งอุตสาหกรรม และการจะไปถึงจุดดังกล่าวได้จะมีองค์ประกอบสำคัญ 4 ประการคือ ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ความยั่งยืน เทคโนโลยี และบุคลากรจะกำหนดอนาคตของการขนส่ง

ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง: รูปแบบธุรกิจและโซลูชันใหม่ๆ ช่วยให้ใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น

ลองดูที่องค์ประกอบแรกนั่นคือลูกค้าเป็นศูนย์กลาง สำหรับผู้ให้บริการสิ่งนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าเพื่อการขนส่งที่รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น เมื่อความคาดหวังของลูกค้าเพิ่มขึ้นจากการเติบโตของอีคอมเมิร์ช โซลูชั่นที่มีความรวดเร็ว โปร่งใส ในราคาที่สามารถซื้อหามาใช้งานได้และสะดวกสบาย รวมถึงให้ผลตอบแทนอย่างรวดเร็วจะกลายเป็นบรรทัดฐาน เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ ผู้ให้บริการด้านการขนส่งจะต้องสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่และข้อเสนอใหม่ๆ ที่เน้นลูกค้าเป็นหลัก

ในส่วนนี้ การขนส่งในรูปแบบของ omni-channel จะยังคงเป็นแนวโน้มสำคัญในธุรกิจค้าปลีกและอื่นๆ ด้วยตลาดค้าปลีกออนไลน์แบบธุรกิจต่อธุรกิจ (B2B) ที่คาดว่าจะเติบโตเป็นสองเท่าของตลาดออนไลน์แบบธุรกิจต่อผู้บริโภค (B2C) ภายในปี 2564 ธุรกิจจะต้องเพิ่มความพยายามในการเจาะเข้าสู่ช่องทางออนไลน์ใหม่ ในด้านการขนส่ง นวัตกรรมสำคัญจะรวมถึงการพัฒนาเครือข่ายด้านการเติมเต็มสินค้าที่มีความยืดหยุ่นอย่างเช่น FLEXE โซลูชันการมองเห็นสินค้าคงคลังแบบจำลอง ต้นทุนที่มีความใกล้เคียงกับความเป็นจริงสำหรับการจัดส่งสินค้า และโซลูชั่นด้านการจัดส่งระยะสุดท้ายใหม่ๆ

ด้วยความต้องการของลูกค้าเราจะได้เห็นการเติบโตของการขนส่งสินค้าประเภทที่มีความอ่อนไหวต่อเวลาและอุณหภูมิตรงไปยังผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งตามรายงานเรียกว่า  ‘Fresh Chain’ นี้จะต้องใช้นวัตกรรมใหม่ในการบรรจุ จัดเก็บ และส่งมอบสินค้า เช่น ร้านขายของชำ และเวชภัณฑ์ และเมื่อพูดถึงการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภค รายงานชี้ให้เห็นว่า  ‘Connected Life’ จะทำให้เกิดการรวมบริการขนส่งระยะสุดท้ายเข้ากับระบบบ้านอัจฉริยะขึ้น

การพัฒนาอย่างยั่งยืน: ก่อให้เกิดอุตสาหกรรมไร้มลพิษ

ในช่วงสองปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมขนส่งต่างเอาจริงเอาจังในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)  รัฐบาล อุตสาหกรรม และ บริษัทต่างๆ ทั่วโลกมุ่งมั่นที่จะลดระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์  และของเสีย ด้านการจัดการขยะ มีการออกนโยบายที่มุ่งกำจัดบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนไปใช้โซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในบางประเทศ ความพยายามในการพัฒนาอย่างยั่งยืนจะเกี่ยวข้องกับการยุติการใช้น้ำมันเบนซินและยานยนต์ที่ใช้พลังงานดีเซลในอีก 10 ถึง 20 ปี

บริษัทขนส่งรายใหญ่ต่างโดดลงมาทำเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง อาทิ ดีเอชแอลมุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทขนส่งที่ไม่มีการปล่อยมลพิษภายในปี 2593 และมีความก้าวหน้าที่สำคัญในแนวโน้ม ‘Green Energy Logistics’ ผ่านการผลิตและการจัดส่งสินค้าด้วยยานพาหนะไฟฟ้าของ StreetScooter

ด้วยการค้าระดับโลกที่เพิ่มขึ้น ‘Smart Containerization’ จะพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นแนวโน้มที่สำคัญ สิ่งนี้จะทำให้เห็นว่าตู้บรรจุสินค้ามาตรฐานจะถูกพัฒนาไปสู่รูปแบบของการทำงานเป็นโมดูล และมีความอัจฉริยะที่หลากหลาย ซึ่งทำให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่ DHLกำลังทำการทดสอบการขนส่งในเมืองรูปแบบใหม่ที่รู้จักกันในชื่อ DHL Cubicycle

เทคโนโลยี: เปิดตัวนวัตกรรมที่ให้ประสิทธิภาพต่อราคาที่คุ้มค่า

เทคโนโลยีใหม่กำลังมา – และทำงานได้เร็วกว่าที่เคยเป็น ด้วยเซ็นเซอร์ที่ราคาถูกกว่า การเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อ ความสามารถในการคาดการณ์ และพลังการประมวลผลที่มากขึ้น นวัตกรรมใหม่ๆ จะเข้าสู่อุตสาหกรรมการขนส่งที่เร็วขึ้น ทำให้ห่วงโซ่อุปทานฉลาดขึ้น เร็วขึ้น และสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ กุญแจสำคัญของสิ่งนี้คือ อินเทอร์เน็ตของทุกสรรพสิ่ง (Internet of Things -IoT) ด้วยค่าใช้จ่ายในการติดตั้งที่ถูกลง IoT จะผลักดันเทคโนโลยีต่างๆ เช่น คลังสินค้าอัจฉริยะ การมองเห็นการขนส่งแบบเรียลไทม์ และการนำส่งสินค้าที่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้

อีกหนึ่งแนวโน้มเทคโนโลยีที่สำคัญจะเป็น ‘โซลูชันไร้สายยุคใหม่’ นอกเหนือไปจาก 5G, WiFi และ Bluetooth 5.0 เครื่องมือเพิ่มขีดความสามารถทางเทคโนโลยีเหล่านี้ จะเพิ่มขอบเขตและเพิ่มการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและข้อมูลมากขึ้น ในตลาดทางเทคโนโลยีที่อิ่มตัว โซลูชันเหล่านี้จะทำให้การใช้บริการเนื้อหาต่างๆ มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ลดความล่าช้า ทำให้การประมวลผลแบบเรียลไทม์ที่ดีขึ้นผ่านการประมวลผลชายขอบของระบบและการจัดการแอพพลิเคชันในระบบคลาวด์ นอกจากนี้การใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือจะให้ทางเลือกเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ‘ปัญญาประดิษฐ์’ (AI) ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันของเรา ยังมีบทบาทอย่างมากในการขนส่ง แอพพลิเคชันที่สำคัญ ได้แก่ ระบบแบ็คออฟฟิศอัตโนมัติ หว่งโซ่อุปทานที่คาดการณ์ได้ และประสบการณ์ใหม่ของลูกค้าที่มาจาก AI

รู้จักกันดีที่สุดจากสกุลเงินดิจิตอล (cryptocurrencies) เทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทแบบกระจาย อย่าง บล็อกเชนจะเข้ามาช่วยขจัดความซับซ้อนที่สำคัญเมื่อนำไปใช้กับห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก แม้ว่ามันจะยังอยู่ในระยะเริ่มต้น  แต่บล็อกเชนอาจสร้างมูลค่าเพิ่มโดยการสร้างความเชื่อมั่นและความโปร่งใสระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่อุปทานและสนับสนุนกระบวนการจัดการและการค้าในการขนส่งแบบอัตโนมัติ

บุคลากร: การสร้างบุคลากรที่ทำงานร่วมกับเครื่องจักรได้ในอนาคต

แม้จะมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่ผู้คนจะยังคงมีบทบาทสำคัญในการขนส่ง ในความเป็นจริง เมื่อมีการผลักดันให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างเครื่องจักรกับมนุษย์และการร่วมมือกันโอกาสใหม่ๆ จะเกิดขึ้นกับมนุษย์ ด้วยการทำให้การทำงานที่ซ้ำๆ งานที่ต้องใช้กำลังมาก และงานที่ต้องใช้แรงงานมากเป็นไปได้โดยอัตโนมัติ  เทคโนโลยีใหม่นี้จะช่วยให้มนุษย์มีสมาธิกับงานที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า เช่น การเขียนโปรแกรม และการจัดการ

ด้วยการขาดแคลนแรงงาน ประชากรสูงวัย และความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น การเติมเต็มสินค้าที่รวดเร็วจึงเป็นความท้าทายสำหรับผู้ให้บริการขนส่งในตลาดที่อิ่มตัวหลายแห่ง โซลูชันเหล่านี้จะช่วยให้อุตสาหกรรมตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความสามารถในการซื้อหามาใช้งานได้จะช่วยให้งานด้านการขนส่งที่สำคัญเป็นไปโดยอัตโนมัติและสร้างบทบาทใหม่ให้กับมนุษย์ แต่สิ่งนี้จะทำให้ผู้ให้บริการด้านการขนส่งต้องคิดหาแนวคิดการทำงานแบบดิจิทัลที่สามารถดึงดูดและรักษาบุคลากรรุ่นใหม่ๆ ที่มีความสามารถรวมถึงการสนับสนุนบุคลากรด้านการขนส่งที่มีอยู่ในปัจจุบันไว้