5 คำทำนายเกี่ยวกับบล็อกเชนตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป

หลังจากหนึ่งปีที่มูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลหายไปถึงร้อยละ 80 และข่าวคราวเกี่ยวกับบล็อกเชนว่าเป็นยาครอบจักรวาลที่ช่วยลดปัญหาด้านการทำธุรกรรมทางธุรกิจ ในปี 2562 นี้จะเป็นปีของการสร้างโซลูชั่นสำหรับการนำไปใช้ในโลกแห่งความจริง

ในปี 2561 บล็อกเชนได้กลายเป็นข่าวพาดหัวซ้ำแล้วซ้ำอีก  ส่วนใหญ่ผ่านตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่สับสนวุ่นวาย ซึ่งมูลค่าของบิทคอยน์ และโทเค็นดิจิทัลอื่นๆ หายไปมากถึงร้อยละ 80  ซึ่งกรณีนี้ไม่ส่งผลดี และจะเป็นการบ่อนทำลายเทคโนโลยีระบบบัญชีแยกประเภทแบบกระจาย (DLT) ที่สนับสนุนบิทคอยน์ และเงินดิจิทัลอื่นๆ

ในขณะที่ปีที่ผ่านมาได้เห็นการใช้งานบล็อกเชนเพื่อพิสูจน์แนวคิดและทำโครงการนำร่องที่เพิ่มสูงขึ้นแต่ DLT ยังคงไม่ได้รับการพิสูจน์ในสภาพแวดล้อมการผลิต

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าบล็อกเชนไม่มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนกระบวนการทางธุรกิจเป็นจำนวนมากได้

ในปี 2562  และอีกไม่กี่ปีข้างหน้า บล็อกเชนมีแนวโน้มที่จะพัฒนาขึ้นเพื่อให้มีความยืดหยุ่นและความปลอดภัยมากขึ้นซึ่งทำให้แอพพลิเคชันต่างๆ เช่นการลงคะแนนเสียงผ่านมือถือ (เหมือนกับที่ทำในเวสต์เวอร์จิเนียเอเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา) และการติดตามห่วงโซ่อุปทาน โดยมีการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมระหว่างประเทศด้านการขนส่งทางเรือ อาหาร และเพชร)

และต่อไปนี้คือ 5 คำทำนายจากนักลงทุน ห้องปฏิบัติการด้านการวิจัย มูลนิธิอุตสาหกรรม และนักวิเคราะห์ชั้นแนวหน้าเกี่ยวกับก้าวต่อไปของบล็อกเชน และการพัฒนาที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

Wes Levitt หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ที่ Theta Labs

Leveta แห่ง Theta Labs เผยว่า “สกุลเงินดิจิทัลของประเทศที่ถูกกฎหมายแห่งแรกจะเปิดตัว และจะเชื่อมโยงกับสกุลเงินกระดาษจากกลุ่มประเทศ G-20 สินทรัพย์ดิจิทัลนี้จะมีความต้องการสูงสำหรับการผสมผสานประโยชน์ของสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ากับความมั่นคงของสกุลเงินที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล นี่กลายเป็นประเด็นร้อนในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา และคุณได้เห็นการเปลี่ยนผู้ว่าการธนาคารชาติ มีหลายอย่างที่ออกมาจริงๆ และบอกว่าพวกเขากำลังประเมินสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางอยู่

“ปณิธานปี 2561 ของ Mark Zuckerbergในการศึกษาสกุลเงินดิจิทัลจะส่งผลให้มีการรวมเอาการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลเข้ากับเฟซบุ๊ค แต่คำถามเดียวก็คือพวกเขาใช้สกุลเงินดิจิทัลที่มีอยู่แล้ว หรือสร้างขึ้นมาใหม่ ผมรู้ว่าขณะนี้เฟซบุ๊คกำลังมองหาสิ่งนี้อยู่ ตัวอย่างเช่น การรวมการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลกับแอพแมสเซนเจอร์  เรารู้ว่าบริษัทอื่นๆ เช่นในประเทศจีน อาลีบาบาก็มี Alipay ผมไม่คิดว่าเราจะเห็นการซื้อขายบิทคอยน์บนเฟซบุ๊ค เพราะดูเหมือนจะได้รับบทเรียนจากบิทคอยน์ และสร้างบางสิ่งที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเฟสบุ๊ค”

“‘สงครามแพลตฟอร์มระหว่างแพลตฟอร์มสมาร์ทคอนแท็กอย่าง  Ethereum, EOS และ Dfinityจะไม่มีผู้ชนะที่ชัดเจน การพัฒนาการสื่อสารระหว่างบล็อกเชนจะเปลี่ยนจากสถานการณ์ที่ผู้ชนะได้ทุกอย่างหมดไปเป็นตลาดที่แบ่งปันกัน ทีมงานของเราได้พูดคุยกันมานานแล้วซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการพัฒนาของเรา เรารู้หรือไม่ว่าการใช้ Beta Max กับ VHS มีความเสี่ยง ซีทีโอของเราได้พูดคุยกับกลุ่มอื่นๆ เกี่ยวกับสิ่งนี้ และมีแนวโน้มที่จะพัฒนาโปรโตคอลที่สามารถทำงานร่วมกัน ข้อกำหนดที่เป็นวิธีหนึ่งซึ่งทำให้บล็อกเชนสามารถติดต่อกันได้

“ส่วนหนึ่งของปัญหาคือข้อมูลจำเพาะของบล็อกเชนที่มีความหลากหลายไม่จำเป็นต้องรวมเข้าด้วยกัน คุณไม่สามารถมี 500 ระบบที่แตกต่างกันโดยที่ไม่ได้ใช้งาน มันจะเหมือนมีผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่แตกต่างกัน แต่คุณสามารถสื่อสารกับคอมพิวเตอร์ที่อยู่บนระบบของ ของผู้ให้บริการรายเดียวกันเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ทำอินเทอร์เน็ตระดับชาติหรือระดับโลกเวิร์ก

“สิ่งนี้มีความหมายอย่างไรกับแพลตฟอร์มสมาร์ทคอนแท็ก ตอนนี้มันเป็นโลกของการแข่งขันที่ดุเดือดซึ่งคุณมีความแตกต่างระหว่างคนสนับสนุน Ethereum กับคนสนับสนุน EOS  และพวกเขาคิดว่ามันเป็น ‘ทีมของเราต้องชนะและคนอื่นๆ ต้องแพ้ ‘

“สุดท้ายมีวงจรเหล่านี้ก็มีอยู่เสมอจากการที่ทุกคนคลั่งไคล้บล็อกเชน และสกุลเงินดิจิทัล แล้วทุกคนก็จะผ่านมันไปได้ และอีกสองสามปีเมื่อทุกอย่างสงบลง ผู้คนก็จะสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นมา ดูเหมือนว่าปี 2562 จะเป็นหนึ่งในนั้น ดังนั้นคุณจะเห็นพาดหัวข่าวเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล และบล็อกเชนน้อยลง … และแม้ว่าจะเป็นปีที่เงียบเหงา แต่การทำงานจริงเบื้องหลังจะยังคงดำเนินต่อไป”

Avivah Litan รองประธานของการ์ทเนอร์ และนักวิเคราะห์ที่มีชื่อเสียง

“ ในปี2563 บล็อกเชนที่มีการใช้งานภายในองค์กรส่วนใหญ่จะถูกผูกติดกับบล็อกเชนสาธารณะโดยใช้หนึ่งในวิธีการทางเทคนิคต่างๆ เช่น ไซด์เชนหรือเชนเสมือน  แต่การปรับขนาดและประสิทธิภาพการดำเนินงานของพวกเขาจะไม่ได้รับการพิสูจน์อย่างกว้างขวางจนถึงปี 2565″  Litan เผย

“โดยทั่วไปแล้ว บล็อกเชนสาธารณะมีความปลอดภัยมากกว่าบล็อกเชนที่ใช้ภายในองค์กร เนื่องจากสนับสนุนฉันทามติแบบกระจายศูนย์ ดังนั้นจากมุมมองนั้น ถ้าคุณมี 10,000 โหนดที่เข้าร่วมและตรวจสอบธุรกรรมคุณมั่นใจได้ว่าธุรกรรมจริงๆ สิ่งที่มันบอกว่ามันคือถ้าคุณแค่มีคนสองคนควบคุมบล็อกเชนที่ใช้กันภายในองค์กร

“โซลูชันที่เกิดขึ้นใหม่สำหรับความสามารถในการปรับขนาดบล็อกเชนสาธารณะ ประกอบด้วย:

“โพรโทคอล “ออฟเชน” ของเลเยอร์2 ซึ่งยังคงอยู่ในช่วงเบต้า (Lightning Network for Bitcoin, Plasma, Raiden Network หรือ Liquidity Network for Ethereum, State Channels, TrueBit และอื่นๆ ) โซลูชั่นออฟไลน์เหล่านี้ย้ายธุรกรรมออกจากเชนหลักไปยังระบบการส่งข้อความเลเยอร์ที่สองซึ่งไม่มีภาระผูกพันโดยโปรโตคอลความสอดคล้องของเชนหลักและโครงสร้างข้อมูลตัวอย่างเช่น สกุลเงินดิจิทัลบิทคอยน์ ผู้ใช้สามารถย้ายเงินออกจากห่วงโซ่ไปยังบัญชีมูลค่าที่เก็บไว้บน Lightning Network  ซึ่งใช้โพรโทคอลแยกออกมาต่างหากเพื่อย้ายเงินไปยังให้คนอื่นๆ เมื่อผู้ใช้ปิดช่องทาง Lightning เงินจะเปลี่ยนกลับไปที่เชนหลัก

“ไซด์เชน – บล็อกเชนที่จัดการกับทรัพย์สินนอกบล็อกเชนหลักและสามารถส่งทรัย์สินกลับไปยังบล็อกเชนหลักได้ในอนาคต ไซด์เชนส่วนใหญ่ยังคงอยู่ระหว่างการพัฒนาจะได้รับประโยชน์จากความปลอดภัยของรูทเชนผ่านการตรวจสอบ ยกตัวอย่างเช่น Polkadot หรือผ่านการบังคับใช้กฎของสมาร์ทคอนแท็กที่รับประกันว่าผู้ใช้สามารถดึงโทเค็นเชนลูกของพวกเขาออกจากทุกจุดได้ (เช่นในกรณีของเชนลูกของ Ethereum Plasma) ไซด์สามารถอัพเดตสถานะของมันได้ทุกจุดบนรูทเชนเพื่อให้แน่ใจว่าการทำธุรกรรมไม่สามารถทำธุรกรรมได้ ณ จุดนั้น ในทางทฤษฎีสามารถเปิดใช้งานการทำธุรกรรมย้อนกลับบนไซด์เชนตามความเหมาะสมต่อความต้องการของผู้ใช้ก่อนที่สถานะจะถูกอัพเดตบนรูทเชน

ดังนั้นโดยทั่วไป บล็อกเชน (สาธารณะ) กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาเรื่องความสามารถในการปรับขนาดให้ได้มากขึ้น เมื่อเกิดขึ้น เราจะเห็นธุรกรรมที่เป็นแบบที่ผ่านการอนุญาต/ส่วนตัวไหลผ่านบล็อกเชน (สาธารณะหลัก)

“ในปี 2566 ด้านเทคนิค บล็อกเชนแบบใช้งานภายใน/สาธารณะที่สามารถปรับขนาดได้จะถูกรวมเข้าด้วยกันในระดับโครงสร้างพื้นฐานและจะสนับสนุนการทำธุรกรรมทั้งแบบสาธารณะหรือส่วนตัวที่ไหลผ่านบล็อกเชน”

Jonathan Johnson ประธาน Medici Ventures และสมาชิกคณะกรรมการ Overstock.com

“การลงคะแนนระยะไกลแบบดิจิทัลจะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมากขึ้น” Johnson ซึ่งเป็นผู้ดำเนินกิจการของ  Medici Ventures  เผย “หลังจากโครงการนำร่องที่ประสบความสำเร็จในเวสต์เวอร์จิเนียของแอพพลิเคชั่นลงคะแนนเสียงทางไกลแบบดิจิตอล Voatz ซึ่งอนุญาตให้ผู้ลงคะแนนจากต่างประเทศลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนได้อย่างปลอดภัย หลายรัฐจะหันมาให้ความสนใจผู้ลงคะแนนเสียงในต่างประเทศอีกครั้ง

“รัฐอื่นๆ อาจใช้ระบบดังกล่าวเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มีสิทธ์เลือกตั้งที่พิการ แต่ในฐานะที่ผู้คนคุ้นเคยกับระบบนี้ ก็อาจะมีการโวยวายจากผู้ลงคะแนน ถ้าฉันสามารถลงคะแนนในต่างประเทศได้ด้วยระบบนี้ แต่ถ้าฉันอยู่ที่นี่ (ในประเทศ) ทำไมฉันถึงต้องใช้มัน

“มองหาแอพพลิเคชั่นซัพพลายเชนจำนวนมากที่จะเปิดตัวโดยให้ความมั่นใจมากขึ้นทั้งกับผู้ขายและผู้ซื้อในการจัดเตรียมสินค้า VinX ของบริษัทที่ตั้งอยู่ในอิสราเอลทำอยู่ในธุรกิจไวน์ และ GrainChain ในธุรกิจธัญพืช รวมทั้งในอีกหลายอุตสาหกรรม

“มีสองวิธีที่บล็อกเชนจะได้รับแรงฉุดในห่วงโซ่อุปทาน ในแนวราบ บริษัท หรือกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ใช้มันโดยทั่วไปหรือระหว่างผู้ผลิตกับผู้บริโภค เช่น ตั้งแต่ฟาร์มไปจนถึงโต๊ะทำงาน ซึ่งจะทำให้ Walmart หรือ IBM หรือ IBM กับ Maersk ทำงานร่วมกัน ฉันรู้ว่ามันจะเกิดขึ้น

“ฟินเทคจะยังคงเป็นจุดสนใจที่สำคัญสำหรับกรณีการใช้งานบล็อกเชน บางรายจะมีการนำไปใช้ในระบบผลิตและเริ่มที่จะปฏิวัติวิธีการซื้อขายหลักทรัพย์ เพราะบล็อกเชนเป็นคิลเลอร์แอพตัวแรก [สำหรับสกุลเงินดิจิตอล]  ที่ให้ความสำคัญกับโลกการเงินบนบล็อกเชนเสมอ โลกในบล็อกเชน ฉันคิดเสมอว่าด้วยเหตุนี้ทำให้ฟินเทคเป็นธุรกิจที่สุกงอมที่สุด อุตสาหกรรมด้านการให้บริการทางการเงินยังเต็มไปด้วยคนกลางซึ่งสร้างความขัดแย้ง บล็อกเชนจะเอาสิ่งนั้นออก

“บล็อกเชนจะยังคงถูกโฆษณาว่าเป็นยาครอบจักรวาล บริษัทต่างๆ ที่ติดอยู่กับคำโฆษณานี้จะเสียเงินไปกับการพยายามใช้บล็อกเชนไปกับงานที่ฐานข้อมูลแบบเก่าทำได้ดีอยู่แล้ว”

Dawn Song ซีอีโอของ Oasis Labs และผู้ชนะรางวัล MacArthur Genius Grant

“ในขณะที่ปี 2561 มุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการปรับขนาดได้ แต่ในปี 2562 จะเน้นเรื่องความเป็นส่วนตัว เราได้เห็นรูปแบบการใช้งานในทางที่ผิด โชคร้าย และเจอการโจมตีจากข้อมูลของผู้ใช้ที่ละเอียดอ่อน

“เราจะมาถึงจุดเปลี่ยนในปี 2562 ซึ่งลูกค้าเริ่ม ‘ลงคะแนนด้วยข้อมูลของพวกเขา’ และมองหาแอพพลิเคชันที่ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของพวกเขา สิ่งนี้จะผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าในการพัฒนาเทคนิคเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวสำหรับบล็อกเชน และยุคใหม่ของแอพพลิเคชั่นที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวเป็นอันดับแรก การให้ความโปร่งใส และการควบคุมอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับผู้ใช้ และสนับสนุนการพัฒนาแอพพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลแบบใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เป็นอันดับแรก

Bruce Fenton ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการของ Atlantic Financial สมาชิกคณะกรรมการของ Bitcoin Foundation

“ผมคิดว่าแนวโน้มหลักจะเป็นหลักทรัพย์โทเค็น การผสมผสานพลังของบัญชีแยกประเภทที่กระจายกับหลักทรัพย์ที่มีมาตรฐานมากขึ้นจะเปิดโอกาสมากมายในการสร้างแหล่งเงินทุน ความเป็นส่วนตัวจะยังคงมีความสำคัญ จะมีช่องว่างระหว่างองค์กรที่มีเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งและอ่อนแอเพิ่มขึ้น