มุมมองการจัดซื้อปี 2563

พวกเราหลายคนในห่วงโซ่อุปทานอาจพลาดสิ่งนี้เพราะบางที่เราคิดว่ามันเป็นโฆษณาหรือเพราะในวันที่วุ่นวายไม่มีเวลาพอสำหรับ VISION 2020 ต่อไปนี้คือจุดที่่น่าสนใจที่สุดซึ่งอาจดึงดูดให้คนที่อยู่ในแวดวงการจัดซื้อหันมาสนใจ

งานด้านการจัดการใช้จ่ายจะมีขนาดเล็กมากในปี 2563 ธุรกิจที่แข็งแกร่งต้องมั่นใจกระบวนการ เครื่องมือ ทักษะ ความสัมพันธ์ แม่แบบ และตัวชี้วัดประสิทธิภาพมีอยู่ในสายธุรกิจ และภาระงานมีความเหมาะสม เมื่อระดับของภาระงานลดลง สายธุรกิจเชิงกลยุทธ์ (SBUs) ก็จะพบปะกับซัพพลายเออร์มากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะพัฒนากลยุทธ์ที่ช่วยให้ธุรกิจจัดระเบียบ ออกแบบ และดำเนินการตามกระบวนการ การให้หน่วยงานภายนอก (หรือหน่วยงานภายใน) เข้ามาดูแลงาน การจัดหาที่มั่นใจได้  คิดค้น และจัดการต้นทุน

การมุ่งเน้นไปที่การประหยัดต้นทุนในปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยการเน้นความสามารถในการทำกำไร ซึ่งสามารถทำได้โดยการประหยัดต้นทุนหรือจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่ตลาดในปัจจุบันมีมูลค่าสูง ในปี 2563 คนที่เก่งในกระบวนการจัดหาหรือเป็นผู้ใช้เทคโนโลยีด้านการจัดซื้อและจัดหาอัตโนมัติจะพบว่าตัวเองกำลังทำงานให้กับบริษัทผู้ให้บริการบุคคลที่สาม   เพราะในปี 2563 กิจกรรมจัดซื้อและจัดหาหลายๆ ด้านในปัจจุบัน ไม่ได้ถูกแจกจ่ายให้กับผู้ใช้สินค้าและบริการที่อยู่ภายใน โดยงานที่ไม่สำคัญจะถูกเอาต์ซอร์ซไปให้บริษัทภายนอกเข้ามาดูแลแทน

ความหมายก็คือในปี 2563 เครื่องมือด้านการจัดซื้อจะกลายเป็นสิ่งที่ใช้งานได้ง่าย แม้กระทั่งคนที่ไม่ได้รับการฝึกอบรมสามารถทำกิจกรรมด้านการจัดซื้อและจัดหาตามกระบวนการที่กำหนดไว้ได้ ในหลายกรณี ระบบจะทำงานได้โดยมีมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น งาน:

* การจัดหาที่ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของตลาด และกลยุทธ์การเจรจาต่อรองที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

* การสั่งซื้อขึ้นอยู่กับระดับต่ำสุดสูงสุด

* การแจ้งหนี้ การกระทบยอด และการชำระเงิน

คนไม่จำเป็นต้องรู้วิธีเขียนคำสั่งซื้อ พวกเขาจะต้องสามารถสร้างความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์ที่จะทำให้บริษัทของพวกเขามีความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องในตลาดเฉพาะของพวกเขา ธุรกิจจะเดินไปโดยอัตโนมัติเพื่อทำให้ข้อมูลที่จำเป็นมีความพร้อมใช้งานอยู่เสมอ

วิสัยทัศน์ในปี 2563 เห็นถึงเครือข่ายที่หละหลวม เมื่อเทียบกับฟังก์ชั่นการทำงานที่แน่นหนาของมืออาชีพที่ต้องเผชิญกับซัพพลายเออร์ที่ฝังตัวอยู่ในสายธุรกิจเชิงกลยุทธ์ ชุมชน และกระบวนการทำงานต้องมีการเปลี่ยนแปลงและสร้างบทบาทใหม่อย่างต่อเนื่องตามความต้องการที่เปลี่ยนไป

ตอนนี้ตามภาระงานด้านการจัดซื้อ และในแง่ของการออกแบบห่วงโซ่อุปทาน เราทำกับผลิตภัณฑ์ทุกอย่างเหมือนกันหมด  ในปี 2563 ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการอุปทานจะต้องค้นหาและประเมินปริมาณความต้องการของลูกค้าที่มีลักษณะเฉพาะจากทุกด้านตั้งแต่การตลาด การวิจัยและพัฒนา การดำเนินงาน และส่วนอื่นๆ ขององค์กร แทนที่จะปฏิบัติต่อลูกค้าและผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเหมือนกัน เราจะสร้างห่วงโซ่อุปทาน กระบวนการจัดซื้อ และภาระงานที่ตรงกับความต้องการและผลิตภัณฑ์เฉพาะของลูกค้า

ในปี 2020 ฝ่ายจัดซื้อจะมีคุณค่าเพิ่มมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ฝ่ายจัดซื้อจะมีส่วนร่วมในการวางแผนเชิงกลยุทธ์สำหรับองค์กรและในการระบุการนำไปปฏิบัติและส่งมอบคุณค่าผ่านการควบรวมและซื้อกิจการ ในขณะที่ยังคงให้ความสำคัญกับห่วงโซ่อุปทานทางกายภาพ ในปี 2563 ฝ่ายจัดซื้อก็จะเชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุปทานทางการเงินมากขึ้น การปรับกระแสเงินสด และเงินทุนหมุนเวียน การใช้ส่วนลดที่มีความยืดหยุ่น การจัดหาเงินทุนในห่วงโซ่อุปทาน และอื่นๆ

ข้อมูลจะดีขึ้น เร็วขึ้น ถูกเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายมากขึ้น มองการณ์ไกลขึ้น … และพร้อมใช้งานเมื่อคุณต้องการ

จากการเน้นไปที่เรื่องการต่อรองราคาแบบเก่าจะถูกแทนด้วยการให้ความสำคัญมากขึ้นเกี่ยวกับ:

* ประวัติของซัพพลายเออร์

* นวัตกรรมจากฐานซัพพลายเออร์

* ซัพพลายเออร์ที่สำคัญจะแบ่งเป็นทั้งด้านความเสี่ยงและผลตอบแทน

ฝ่ายจัดซื้อนั้นใช้เวลาเป็นทศวรรษที่ผ่านมาในการมองย้อนเวลา ไปที่เรื่องของเงินที่ใช้ไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ประสิทธิภาพของซัพพลายเออร์ในสัปดาห์ เดือนหรือไตรมาสที่ผ่านมา ทศวรรษที่กำลังจะมาถึงจะนำข้อมูลและแบบจำลองต่างๆ เพื่อมองหาอนาคตข้างหน้า

องค์กรต่างๆ  จะพึ่งพาผลิตภัณฑ์ บริการ กำลังคน ความเชี่ยวชาญและแนวคิดใหม่ๆ ของซัพพลายเออร์มากขึ้น ในขณะที่ยังไม่มีโซลูชั่นแบบเบ็ดเสร็จสำหรับซัพพลายเออร์ ดังนั้นซัพพลายเออร์จะพัฒนาโซลูชั่นเหล่านี้ขึ้นมาเอง ทุกวันนี้

ซัพพลายเออร์อาจถูกขอให้สนับสนุนแนวคิดในการออกแบบที่มีอยู่หรือเพื่อช่วยแก้ไขกระบวนการที่มีมาเป็น 10 ปี ซึ่งพวกเขาจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น แทนที่จะเป็นองค์กรซึ่งสร้างแผนภูมิหลักสูตรในด้านนวัตกรรมของตนเองขึ้นมา การเปลี่ยนจาก ‘ผู้ซื้อและซัพพลายเออร์’ เป็น ‘เครือข่ายซัพพลายเออร์ที่ถูกบูรณาการเข้าด้วยกัน’ จะช่วยให้เกิดการประสานงานในการสร้างแผนที่ทางนวัตกรรมทั้งธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกันได้ดียิ่งขึ้น

ในปี 2563 สมาร์ทโฟน แทบเล็ต ชิปฝังตัว และอุปกรณ์ที่ยังไม่ถูกจินตนาการขึ้นมาจะสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานแบบเคลื่อนที่ขนาดใหญ่สำหรับฝ่ายจัดซื้อและซัพพลายเออร์ อย่าลืมใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้  ผู้ซื้อและผู้ขายจะพึ่งพาเครือข่ายการค้าดิจิทัล และชุมชนที่ให้พวกเขาค้นพบซึ่งกันและกัน เชื่อมต่อ และทำงานร่วมกันได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย